ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิตนาฬิกาชนิดนั้นๆ ที่ Rado เราวัดความแข็งโดยใช้มาตราส่วน Vickers ยิ่งตัวเลขสูงเท่าใด วัสดุก็จะยิ่งแข็งขึ้นเท่านั้น เพชรธรรมชาติเป็นสสารที่แข็งที่สุด ซึ่งมีค่าความแข็งอยู่ที่ 10,000 Vickers ไฮเทคเซรามิกมีค่าความแข็งอยู่ที่ประมาณ 1,250 Vickers, Ceramos มีค่าความแข็งอยู่ที่ประมาณ 1,400 Vickers และไฮเทคเซรามิกที่มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษก็มีค่าความแข็งที่ใกล้เคียงกัน นาฬิกาของเรามีความแข็ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำลายได้ ในฐานะที่นาฬิกาเป็นเครื่องที่มีกลไก เราขอแนะนำให้คุณดูแลนาฬิกา Rado ของคุณ เช่นเดียวกับที่คุณดูแลสินค้าที่มีมูลค่าสูงชนิดอื่นๆเช่นกัน หากคุณทำนาฬิกา Rado ตก นาฬิกาอาจแตกหักได้
อันดับแรก เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่าเราหมายถึงอะไรเมื่อพูดถึงเรื่องการป้องกันรอยขีดข่วน สำหรับ Rado การป้องกันรอยขีดข่วนหมายถึง “ความสามารถในการป้องกันรอยขีด ข่วนที่เกิดขึ้นจากการใช้งานในชีวิตประจำวันตามปกติ” ในบริบทนี้ ไฮเทคเซรามิกของ Rado มีระดับการป้องกันรอยขีดข่วนที่สูงมาก อย่างไรก็ตาม อาจมีความเสี่ยงต่อรอยขีดข่วนได้หากสัมผัสกับวัสดุที่แข็งเท่ากันหรือ แข็งมากกว่าไฮเทคเซรามิก อนุภาคดังกล่าวพบได้ในวัตถุหรือวัสดุ เช่น ตะไบเล็บ หินแกรนิต หรือทราย เราขอแนะนำให้คุณดูแลนาฬิกาของคุณและพยายามหลีกเลี่ยงการสวมใส่ในสถาน การณ์ที่อาจจะสัมผัสกับวัสดุที่แข็งมากๆ อย่างอื่นได้
สำหรับ Rado เราใช้คริสตัลแซฟไฟร์เป็นมาตรฐานสำหรับนาฬิกาทุกเรือนของเรา ซึ่งมีระดับความแข็ง 2,500 Vickers และป้องกันรอยขีดข่วนได้ดีกว่ากระจกมิเนอรัล หรืออะคริลิก แม้ว่าจะเป็นเรื่องยาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่สามารถทำลายได้ เช่นเดียวกับไฮเทคเซรามิก คริสตัลแซฟไฟร์สามารถขีดข่วนได้ด้วยวัสดุที่แข็งพอๆ กันหรือแข็งมากกว่าแซฟไฟร์ ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับวัตถุหรือวัสดุ เช่น ตะไบเล็บ หินแกรนิต หรือทราย ซึ่งทั้งหมดนี้มีอนุภาคของวัสดุที่แข็งอย่างยิ่ง